เนื้อหา 3

                                                   วิธีการทำความสะอาดห้องน้ำ
โถ สุขภัณฑ์ การดูแลรักษาโถสุขภัณฑ์ให้ปราศจากเชื้อโรคนั้น เป็นสิ่งที่จำเป็นต้องทำประจำ คราบสกปรกบนโถสุขภัณฑ์นั้นทำความสะอาดแก้โดยใช้น้ำยาทำความสะอาดที่เรา สามารถบีบเข้าใส่ริมโถด้านในได้ ซึ่งเป็นแหล่งสะสมคราบต่าง ๆ อยู่ แล้วออกแรงขัดกันหน่อยที่ด้านในโถเรื่อยไปยังส่วนที่เป็นคอห่านให้ลึกที่สุด เท่าที่เราจะแหย่แปรงขัดเข้าไปได้

สำหรับคราบที่ฝังแน่นนั้น ให้ใช้น้ำยาซักผ้าขาวเทลงในโถแล้ว หาอะไรทำฆ่าเวลาซัก 10 นาทีก่อนที่จะกลับมาขัดออก ส่วนการทำความสะอาดบริเวณฝารองนั่งควรทำทุกวันหลังจากใช้งานแล้ว เพราะเป็นส่วนที่สัมผัสกับร่างกายเรา การทำความสะอาดก็ง่าย ๆ โดยใช้กระดาษทิชชู่ชุบเอทิลแอลกอฮอล์เช็ดที่ฝารองนั่ง ส่วนคราบสนิมบนโถสุขภัณฑ์สีขาวหรือสีอ่อนที่มองเห็นทั่วไป
หรือคราบขาวบน สุขภัณฑ์สีเข้ม มีสาเหตุจากลูกยางปิด-เปิดในถังพักน้ำชำรุด ทำให้น้ำไหลลงโถตลอดเวลา นาน ๆ เข้าจะเกิดคราบสนิมหรือคราบขาวซึ่งเกิดจากการสะสมของสารที่เจือปนมากับน้ำ วิธีแก้ไขที่ต้นเหตุคือการเปลี่ยนลูกยางใหม่เท่านี้ก็กำจัดปัญหานี้ไปได้ แล้ว ส่วนคราบสนิมหรือคราบขาวที่ทิ้งร่องรอยเอาไว้ ให้ใช้กระดาษทรายน้ำขัดกับน้ำถูเบา ๆ
หรือใช้น้ำยาล้างห้องน้ำและแปรงขัด ให้ทั่ว ในกรณีที่ใช้น้ำยาล้างห้องน้ำ ควรสวมถุงมือและผ้าปิดจมูกทุกครั้ง เพราะน้ำยาล้างห้องน้ำทำจากสารเคมีที่เป็นอันตรายต่อร่างกาย

นอกจาก นี้เราสามารถป้องกันสิ่งที่จะเป็นอุปสรรคขวางทางเดินของน้ำจากถังเก็บน้ำได้ โดยใช้เบคกิ้ง-โซดา 1 ถ้วยตวง ( หาซื้อได้จากร้านขายส่วนผสมเค้กหรือตามซูเปอร์มาร์เก็ตทั่วไป ) ลงไปในถังน้ำสัปดาห์ละครั้ง เพราะเบคกิ้งโซดาจะช่วยรักษาค่าความเป็นด่างที่เหมาะสม และช่วยควบคุมกลิ่นซัลเฟตที่ไม่พึงประสงค์มารบกวนประสาทสัมผัสของเราอีกด้วย

อ่าง ล้างหน้า อ่างเซรามิคที่ใช้ไปนาน ๆ จะขึ้นคราบดูไม่สวยงามน่าใช้ แก้ไขได้เพียงนำผ้าสะอาดชุบน้ำส้มสายชูเล็กน้อยถูให้ทั่วพื้นผิวของอ่างแล้ว ล้างซ้ำด้วยน้ำสบู่อุ่น ๆ อ่างก็จะเงางามขึ้นทันตาเห็น แต่หากอ่างของเรามีคราบหินปูนเกาะหรือคราบสนิมรุกราน ให้ใช้แอมโมเนียผสมกันน้ำมะนาวเล็กน้อยถูบริเวณคราบดังกล่าว ไม่นานคราบหินปูนและสนิมก็จะหลุดออกหมด
และถ้าพบว่าอ่างของเราน้ำเริ่ม ระบายไหลไม่สะดวกอันมีเหตุจากการอุดตัน ให้เอาโซดาผสมกับน้ำส้มสายชูในอัตราส่วน 1 ต่อ 1 เทลงในท่อน้ำทิ้งไว้ 3 – 5 นาที และค่อยเปิดก๊อกให้น้ำไหลลงท่อ น้ำจะไหลลงท่อได้อย่างสะดวกเช่นเดิม

อ่าง อาบน้ำ เมื่อใช้ไปนาน ๆ อ่างอาบน้ำจะมีคราบไขมันสบู่และคราบเหงื่อไคลจากร่างกายในระหว่างอาบน้ำเกาะ ติดอยู่ตามส่วนต่าง ๆ ใช้ผ้าจุ่มน้ำมันก๊าดเพียงเล็กน้อยถูให้ทั่วแล้วล้างซ้ำด้วยน้ำร้อนอีกครั้ง คราบไขมันจะหลุดออกอย่างง่ายดาย หรือใช้โซดาและผงซักฟอกมาผสมกันในอัตราส่วน 1 ต่อ 1 เทผสมกับน้ำ ทิ้งไว้ 5 – 10 นาที ก่อนล้างน้ำซ้ำอีกครั้ง
อ่างอาบน้ำของเราจะกลับแวววาวได้อีกครั้ง

ห้อง อาบน้ำ บริเวณที่อาบน้ำที่กั้นด้วยกระจกหรือพีวีซี มักจะหมองหรือด่างด้วยคราบสบู่ เราควรเช็ดถูด้วยน้ำยาเช็ดกระจก หรือใช้ฟองน้ำเช็คคราบน้ำหลังการอาบน้ำเสร็จทุกวัน โดยมอบหน้าที่ให้คนที่อาบน้ำคนสุดท้ายเป็นคนทำ แต่ถ้าเป็นคราบตกค้างอยู่ให้ใช้วิธีการทำความสะอาดเดียวกับการทำความสะอาด อ่างอาบน้ำ

ผ้าม่านพลาสติก ควรซักด้วยน้ำสบู่อ่อนๆ หรือน้ำยาซักผ้าที่ผสมน้ำอุ่น แล้วล้างออกด้วยน้ำอุ่น แล้วผึ่งให้แห้งโดยการตากลมดีกว่าตากแดด เพราะจะไม่ทำให้ผ้าม่านสี จืดจางลง

ฝัก บัว , ก๊อกน้ำ น้ำที่ออกจากฝักบัวที่ใช้ชำระล้างร่างกายของเรานั้นควรเป็นน้ำสะอาด ฉะนั้น เราควรทำความสะอาดฝักบัวโดยการแช่ส่วนหัวของฝักบัวลงในน้ำอุ่นผสมน้ำส้ม สายชู ในอัตราส่วน น้ำ 1 ขัน ต่อ น้ำส้มสายชู 2 ช้อนโต๊ะ โดยแช่ไว้ในถุงพลาสติกรัดปากถุงทิ้งไว้ 1 คืน รุ่งขึ้นแล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาดเช็ดด้วยผ้าสะอาดให้แห้ง แขวนเก็บไว้ที่เดิม
เท่านี้เราก็สามารถสบายใจได้ว่า น้ำสะอาดที่ออกมานั้นจะไม่เปลี่ยนสภาพไปเพราะฝักบัวที่สกปรกอีกต่อไป หากก็อกที่เราใช้เป็นสแตนเลส สามารถทำความสะอาดส่วนที่เป็นโลหะด้วยผ้านุ่มหรือฟองน้ำ หรือแม้แต่หนังชามัวที่ไว้เช็ดรถก็ใช้ได้ ชุบน้ำส้มสายชูผสมกับแอลกอฮอล์หรือน้ำยาเช็ดกระจกก็ได้ แต่ถ้าก๊อกเป็นแบบชุบโครเมียม ให้ใช้ครีมขัดเงาหรือครีมขัดโลหะขัด
แล้ว ถูให้เงางามโดยใช้ผ้านุ่ม ๆ หรือหนังชาร์มัว กรณีที่โครเมียมลอก หรือมีร่องรอยขีดข่วนเล็ก ๆ น้อย ๆ เราสามารถขจัดความหม่นมัวเหล่านี้ออกไปได้ง่าย ๆ เพียงใช้ยาเคลือบเล็บชนิดใสแต้มไปเพื่อเพิ่มความเงา

พื้น / ผนัง พื้นผนังของห้องน้ำมักเป็นที่สะสมสิ่งสกปรก ปัญหาที่มักพบบ่อย ๆ คือ ผนังปูนตอนบนที่อยู่พ้นแนวกระเบื้องไปแล้ว มีรอยด่างดำจากสบู่หรือแชมพูที่กระเด็นไปติด ซึ่งสามารถทำความสะอาดได้โดยใช้น้ำยาล้างห้องน้ำผสมน้ำอ่อน ๆ เช็ดเคลือบเอาไว้ ทิ้งไว้ซัก 5 – 10 นาทีแล้วล้างออก ส่วนคราบสบู่ที่เกาะอยู่ตามซอกยาแนวกระเบื้องห้องน้ำ
หากยาแนวของเราเป็น สีขาวสามารถใช้ยาสีฟันสูตรไวท์เทนนิ่งกับแปรงสีฟันเก่า ๆ มาขัดจุดดำ ๆ ออกได้ หรือจะลองใช้เบคกิ้งโซดานิดหน่อยกับแชมพูแบบถูกก็ได้ แชมพูจะทำหน้าที่ชำระล้างส่วนเบคกิ้งโซดาจะทำหน้าที่กัดกร่อนคราบสกปรก

กระจก เงา การดูแลกระจกให้ปราศจากคราบทำได้ไม่ยากสักนิด เพียงใช้ยาสีฟันมาบีบใส่ไว้บนกระจกแล้วหาผ้าชุบน้ำมา เช็ดยาสีฟันที่บีบทิ้งไว้บนกระจก โดยถูให้ทั่วๆ กระจก แล้วใช้ผ้าเช็ดอีกครั้ง กระจกเงาที่หมอง จะดูเงางาม เป็นประกายทันที หรือจะใช้กระดาษหนังสือพิมพ์เก่าชุบน้ำเช็ดก็ได้กระจกจะใสแจ๋วเช่นเดียวกัน

การดูแลทำความสะอาดห้องน้ำจะไม่สร้างความยุ่งยากอีกต่อไป เพียงสละเวลาเล็ก ๆ น้อย ๆ ไม่กี่นาที หลังใช้งานเสร็จในแต่ละวัน ทำความสะอาดห้องน้ำ จะช่วยประหยัดเวลาและแรงงานในการทำรบรากับคราบสกปรกที่ถูกทิ้งไว้ทั้ง อาทิตย์ วิธีนี้ยังทำให้ได้ประสิทธิภาพในการทำความสะอาดยิ่งกว่าด้วย 


ขั้นตอนการทำความสะอาดห้องน้ำ ทำได้ดังนี้ครับ

1.ปัญหาที่พบบ่อยก็คือ ผนังกระเบื้องมีคราบขาวของสบู่และแชมพูเคลือบติดอยู่เป็นฝ้าขาวๆ ให้เริ่มขัดจากผนังไปก่อนโดยทำดังนี้นะครับ
-ใช้น้ำราดผนังให้เปียกก่อน
-ใช้MR.Muscle ชนิดสเปร์ที่ใช้ขจัดคราบและรา(หรือใช้ของจอห์นสันก็ได้)สเปร์ไปทั่วๆ เอาแค่พอที่เราจะขัดทีละช่วงครับ ทิ้งไว้สัก 5 นาที
-ใช้แปรง3Mที่เป็น แบบมือสอดเข้าไป ที่ขัดจะเป็นสก็อตไบร์สีขาวแบนๆ(ไม่ทำให้กระเบื้องเป็นรอย) ให้ขัดวนให้ทั่ว ตรงไหนเป็นร่องกระเบื้องก็ตะแคงแปรงนิดหนึ่งแล้วแทรกเข้าไปขัดตรงร่องยาแนว ที่เป็นเชื้อราด้วยครับ เราจะไม่ต้องออกแรงมากเพราะน้ำยาที่สเปร์ลงไปช่วยทุ่นแรงไปได้มากครับ ขัดเสร็จแล้วก็ล้างผนังด้วยน้ำฝักบัวให้ทั่ว

2.ปัญหาต่อมาคือเรื่อง หินปูน เกาะตามบริเวณขอบอ่างอาบน้ำหรือมุมอ่างล้างหน้า การทำความสะอาดให้ขูดออกด้วยคัตเตอร์แบนๆตะแคงนอนแล้วไถออกเบาๆ เราสามารถบังคับมือได้ง่ายกว่าใช้ไขควงแซะครับ สำหรับก็อกน้ำที่มีตะกรันจับก็แค่สเปร์น้ำยาตัวแรก(หรือใช้น้ำยาสำหรับขัด สนิม) ทิ้งไว้ 5 นาที
ก็ใช้สก็อตไบร์แบบสีขาวเป็นแผ่นแบนๆบางๆขัดคราบสกปรกออกซึ่งขัดแล้วจะไม่เป็นรอยต่อสุขภัณฑ์และก็อกน้ำครับ

3. สำหรับคราบที่โถสุขภัณฑ์ก็ให้ใช้น้ำยาทำความสะอาดสำหรับสุขภัณฑ์โดยเฉพาะ ปัจจุบันมีหลายยี่ห้อที่โฆษณาว่าใช้แล้วไม่ต้องขัดให้เหนื่อยแรง น้ำยาแบบนี้ต้องระวังเป็นพิเศษสักหน่อยในการใช้งาน เวลาใช้ไม่ควรเทน้ำยาลงโถ แต่ควรเทลงไปที่แปรงขัดแล้วจึงจุ่มแปรงลงขัดที่ปากคอห่านให้ทั่ว
ส่วนที่ผิวสุขภัณฑ์ก็ใช้สก็อตไบร์สีขาว ขัดๆตามซอกเล็กและพื้นผิวของสุขภัณฑ์ จะทำให้ไม่เป็นรอยครับ

4. ส่วนที่พื้นห้องน้ำนั้น ก็ให้ขัดด้วยน้ำยาทำความสะอาดพื้นยี่ห้อ''เป็ด" หรือของจอห์นสัน โดยราดน้ำให้เปียกก่อนแล้วใช้น้ำยาเป็ดเทลงไป ยี่ห้อนี้กลิ่นจะไม่ฉุนเหมือนวิกซอลครับ ทิ้งไว้ 5 นาทีแล้วใช้แปรง 2 แบบขัดพื้น
-แบบที่1 ขัดพื้นกระเบื้องใช้แปรงแบบแบนมีที่สอดมือ ตรงสก็อตไบร์เป็นสีเขียวๆสำหรับงานหนักหรือจะใช้แปรงพลาสติกทรงเตารีดก็ได้ ขัดวนๆให้ทั่วแผ่นกระเบื้องเพราะจะเป็นการขัดเอาตะไคร่น้ำและคราบสกปรกที่ทำ ให้เราลื่นได้ออกได้หมดจดที่สุดครับ
-แบบที่2 ใช้แปรงที่เป็นขนพลาสติกแบบมีด้ามยาวหน่อยก็ได้จะได้ไม่ปวดหลังมาก ขัดตรงร่องยาแนวที่มีรอยดำให้ทั่ว
หาก ขี้เกียจขัดพื้นมาก ก็แนะนำให้เอาทิชชูอุดตรงรูระบายน้ำก่อนแล้วเปิดน้ำให้ท่วมขังซัก 2 ซม.แล้วใช้น้ำยาขัดพื้นเทลงไปผสม ทิ้งไว้ 10 นาทีแล้วค่อย drain น้ำออก ราตรงร่องพื้นจะหลุดออกได้ง่ายเอง แล้วค่อยใช้แปรงขัดเฉพาะแผ่นพื้นกระเบื้องครับ ทุ่นแรงไปอีกนิดหนึ่งครับ ราดน้ำสุดท้ายล้างน้ำยาออกให้หมดก็เป็นอันเสร็จพิธีครับ

5.ส่วนกระจกส่องหน้าก็ใช้น้ำยาเช็ดกระจกสเปร์ลงไปแล้วใช้หนังสือพิมพ์ขัดวนให้ทั่วครับ

** พอเสร็จแล้วอาจหาการบูรมาวางไว้ หรือใช้เกรด(Grade) รุ่นที่เป็นเจลหอมเปิดแล้ววางไว้มุมห้องน้ำใช้ได้ 30 วัน จะช่วยให้มีกลิ่นหอมสดชื่นครับ

จุดประสงค์
** อยากให้เชื้อโรคน้อยที่สุดก็ต้องขัดให้สะอาดที่สุด แต่น้ำยาที่ใช้ล้างห้องน้ำไม่ควรใช้แบบรุนแรงมาก เพราะจะทำลายผิวกระเบื้องและร่องยาแนว นอกจากนี้ยังทำลายผิวเซรามิค หรือสีของฝารองนั่งได้ ยังลงไปฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่ช่วยย่อยสลายสิ่งปฎิกูลในถังบำบัดน้ำเสีย และจะวนกลับมาเป็นสาเหตุของกลิ่นเหม็นได้โดยย้อนขึ้นมาจากท่อได้

** ส่วนตรงพื้นถ้าไม่อยากให้ลื่น นอกจากขัดให้สะอาดแล้ว ก็หาแผ่นยางที่เขาใช้ติดกันลื่นอันเล็กๆเท่าฝ่ามือเป็นรูปสัตว์น้ำสีสวยๆ มาติดตามตำแหน่งที่เราจะก้าวเดิน จะช่วยให้ไม่ลื่นครับ( ถ้าแผ่นยางนี้ใช้ไปนานๆแล้วขึ้นราและสกปรก วิธีทำความสะอาดง่ายมาก จับแช่ใส่กะละมังใบเล็กแล้วสเปร์MR.Muscleทิ้งไว้สัก 15 นาที แล้วใช้แปรงสีฟันเก่าขัดเบาๆทั้งด้านหน้าด้านหลัง
เชื้อราดำๆและครบสกปรกจะหลุดออกได้ง่ายมากเลยครับ)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น